เมื่อวันอาทิตย์ ที่ผ่านมา (21 ก.ย.) นัสได้รับเชิญจาก Fit Innovation Thailand—Authorized Training Center ของ Balanced Body Inc. ที่อยู่คู่กับวงการ Pilates Education ในประเทศไทยมากว่า 10 ปี—ให้ไปร่วมแชร์ประสบการณ์ในงาน Fit Talk
งานเสวนานี้จัดเป็นประจำทุกเดือน สลับหัวข้อไปตามสายวิชาชีพด้านการออกกำลังกาย และครั้งนี้มาในหัวข้อ “เส้นทางสู่ครูพิลาทิสมืออาชีพ เตรียมตัวอย่างไรให้ปังไม่พังตั้งแต่เริ่ม”
มีครูพิลาทิสหลายท่านที่ได้รับเชิญมาแบ่งปันประสบการณ์ พวกเราช่วยกันตอบคำถาม และให้ความรู้แนะแนว เส้นทางการเรียนให้มากที่สุด และเพราะเวลาที่จัดไว้มีจำกัด หลายประเด็นที่นัสถูกถาม นัสอยากจะต่อยอดให้ชัดเจนขึ้น จึงเขียนบทความนี้ และจะสกัดออกมาอีกหลายประเด็น เพื่อสรุปแนวคิดและมุมมองที่ได้แลกเปลี่ยนในงาน พร้อมสิ่งที่อยากฝากถึงผู้สนใจเส้นทางนี้ อีกหลายๆ โพสต์
คำถามนี้มาจากนักเรียนท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นคำถามที่ดีมากหลายคนเคยมีประสบการณ์คล้ายกัน—เรียนกับครูคนหนึ่งที่ไม่ได้ Certified แต่กลับ “รู้สึกใช่” ได้แรงบันดาลใจ ได้ Cuing ที่เป๊ะและจับใจ ในขณะที่ครูอีกคนซึ่ง Fully Certified กลับไม่ได้สร้างความประทับใจในแบบเดียวกัน คำถามคือ…แล้วเราควรเชื่อถืออะไรเป็นหลัก?
สำหรับนัส การ Certified คือจุดเริ่มต้น ไม่ใช่ที่สุดของอาชีพ
ก่อนอื่นถือโอกาสแนะแนว สั้นๆ สำหรับหลักสูตรของ Balanced Body กำหนดชัดเจนว่า การ Certified แต่ละวิชา (Mat, Reformer, Comprehensive Apparatus) ต้องผ่านการเรียน การเก็บชั่วโมงทั้งฝึกตัวเอง ฝึกสอนและ ฝึก Observed รวมถึงการสอบทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ และต้องเรียนวิชา Anatomy กับ Movement Principles เหมือนเป็นวิชาบังคับ โดยครูที่เรียน หรือผ่าน Training และสอบครบ 1 วิชา ย่อมมีรากฐานแน่นในวิชานั้น ๆ ส่วน Fully Certified คือเรียนและสอบครบทั้ง 3 วิชา ความรู้จึงครอบคลุมมากขึ้น (โดยแต่ละสถาบัน หรือต่าง Training Center มีการออกแบบหลักสูตรแตกต่างกันไป) และต้องเรียนหรือผ่านการอบรม Basic Life Support (CPR, AED Choking) แบบอายุ 2 ปี ก่อนยื่นความประสงค์จะสอบแต่ละวิชาก่อนด้วย
แต่สิ่งที่นัสอยากบอกคือ ไม่ว่าคุณจะ Certified ระดับไหน มันคือ “บันไดขั้นแรก” เท่านั้น
จุดที่แนะนำให้ focus กว่าคือ Journey หลังจาก Certified ต่างหาก นัสเป็นนักเรียน full time มาตลอด 3 ปีกว่า คือไม่ได้ทำงานประจำไปด้วย มุ่งเรียนและสอบ เป็นหลัก นัสค้นพบว่า ทุกครั้งที่จบ 1 วิชา สิ่งแรกที่ถามตัวเองคือ “เรารู้พอหรือยัง?” คำตอบคือไม่—เพราะการเรียนรู้ที่แท้จริงเพิ่งจะเริ่มหลังจากนั้น ประสบการณ์การสอน การเผชิญหน้ากับนักเรียนจริง ๆ และการแก้โจทย์เฉพาะหน้าต่างหากที่หล่อหลอมความเป็นครู โดยมีของแถมเป็นร่างกายที่แข็งแรงขึ้น ไม่ปวดหลังเจ็บไหล่ เหมือนเมื่อตอนมาเรียนใหม่ๆ แล้ว (เอาจริงๆ คือตอนมาเรียนแรกๆ นี่ร่างกายติดลบมากๆ เพราะว่าเพิ่งเริ่มหายจากการเป็นกล้ามเนื้อหลังอักเสบเฉียบพลันแต่ยังไม่แข็งแรง)
ที่สำคัญไปกว่านั้น นัสตระหนักดีว่าอาชีพนี้ เป็นการให้บริการด้านสุขภาพ และการดูความปลอดภัย ความรับผิดชอบ และมาตรฐานเป็นเรื่องที่นัสเคร่งครัดมาก เพราะนัสใช้หลักการนี้ดูแลคลินิกกายภาพบำบัด ที่บริหารกับหุ้นส่วนด้วยกันมา 7 ปีแล้ว
และใช่—นัสเคยเรียนกับครูที่ไม่ Certified แต่เขากลับตอบโจทย์ที่นัสยังไม่เคยหาคำตอบได้มาก่อน ประสบการณ์ที่สั่งสมจากการเจอคนหลากหลาย ทำให้เขามองออกว่าเราติดขัดตรงไหน แม้เราไม่ได้บอกเขาตั้งแต่แรก และช่วยปลดล็อกได้ในทันที มันคือสิ่ง ที่แม่อ่านหนังสือกี่รอบก็จะไม่เข้าใจ นั่นคือสิ่งที่ทำให้นัสประทับใจ และเป็นแรงบันดาลใจ นำไปสู่การปรับสไตล์การสอนของตัวเองทุกวันนี้
ดังนั้น เวลาเลือกครู นัสใช้ทั้ง “หลักฐานเชิงมาตรฐาน” และ “gut feeling” จึงจำเป็นมากที่เราควรเปิดใจ ให้โอกาสตัวเอง เรียนให้มาก พบเจอครูให้มาก เพื่อให้เวลาเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
Certified ให้ความมั่นใจว่าเราจะได้เรียนตามหลักการที่พิสูจน์แล้ว เป็น process ที่เชื่อถือได้ แต่ “feeling” คือสิ่งที่ตัดสินว่าเราจะเชื่อมต่อกับครูคนนั้นได้จริงไหม นักเรียนบางคนรักเราและไม่ไปไหน บางคนกลับหายไปหลังเจอครูอีกคนเพียงครั้งเดียว และบางคนเลือกอยู่กับครูคนนั้นตลอดไป—มันคือเรื่องของ “ความสัมพันธ์” ที่ไม่สามารถใช้ใบรับรองเพียงอย่างเดียวเป็นคำตอบได้
สุดท้าย การเป็นครูพิลาทิสคือการเรียนรู้ที่จะ วางใจในมาตรฐาน + วางใจในประสบการณ์ + วางใจในความเป็นมนุษย์ในแต่ละความสัมพันธ์ (และไม่อยากจะดับฝันนะแต่มนุษย์นี่แหล่ะ คือความไม่แน่นอนที่สุดแล้วต้องฝึกวางใจให้ดี)
ไม่ว่าจะ Certified หรือไม่ Certified ทั้งหมดนี้เป็นเพียง “ประตู” ที่ต่างกัน แต่เส้นทางจริง ๆ คือการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และการหาจุดที่เรากับนักเรียน “ใช่” ต่อกัน และเติบโตไปพร้อมกับนักเรียน
และแน่นอน เพื่อเป็นการต่อยอดสิ่งที่เรียนมา และได้ใช้กับงานคลินิกกายภาพที่ทำอยู่ ตอนนี้นัสกำลัง เตรียมเรียน Advanced Movement Principles ที่คุณ Nora St John ผู้ที่มีชื่อเป็นผู้เขียนหนังสือทั้ง 3 วิชาหลัก และ 2 วิชาบังคับ จะมาสอนด้วยตนเอง ตั้งใจจะเรียนให้ครบทั้ง 5 Module ไปเลย ตั้งใจจะแชร์สิ่งที่ได้เรียนให้นักเรียนและเพื่อนครูให้มากขึ้น ฝากติดตามกันนะคะ
ถ้าบทความนี้พอจะเป็นประโยชน์ได้บ้าง กดไลค์ ฝากแชร์ให้กับคนที่คุณคิดว่าการออกกำลังกายแบบ Pilates จะช่วยเค้าได้กันนะคะ ^^